อากาศร้อนอบอ้าวจนบ้านร้อนไม่รู้จะแก้ยังไง เป็นปัญหาที่หลายครอบครัวต้องเผชิญตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะฤดูไหนก็ตาม หลายคนคงกำลังหาวิธีคลายร้อนในบ้าน โดยที่ไม่ต้องพึ่งเครื่องปรับอากาศเพื่อประหยัดค่าไฟ วันนี้ Thanakoon มีวิธีแก้ปัญหาบ้านร้อนอบอ้าวแบบตรงจุด และเห็นผลจริงมาฝากกัน
บ้านร้อนแก้ยังไง ต้องเข้าใจถึงต้นตอปัญหาก่อนแก้ไข
ก่อนจะรู้วิธีแก้ไขปัญหาบ้านร้อน เราต้องเข้าใจสาเหตุที่ทำให้บ้านร้อนอบอ้าวก่อน เพราะการแก้ไขที่ต้นเหตุจะช่วยให้บ้านเย็นสบายได้อย่างถาวร ไม่ใช่แค่บรรเทาอาการชั่วคราว มาดูกันว่าสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้บ้านร้อนมีอะไรบ้าง
- ทิศทางการวางผังบ้านไม่เหมาะสม : บ้านที่วางผังไม่เหมาะสมกับทิศทาง โดยเฉพาะห้องที่รับแสงแดดจากทิศตะวันตกและทิศใต้ในช่วงบ่ายจะร้อนมาก นอกจากนี้ การที่บ้านไม่มีการเปิดหน้าต่างทางทิศเหนือและทิศใต้ทำให้ลมพัดผ่านไม่ได้ อากาศไม่ถ่ายเทจึงเกิดความร้อนสะสม บ้านร้อนแก้ยังไงในกรณีนี้ต้องมองที่การปรับปรุงการระบายอากาศและการบังแสงแดด
- พื้นที่รอบบ้านไม่มีพื้นที่สีเขียว : หลายบ้านใช้พื้นที่เต็มจนไม่เหลือที่สำหรับต้นไม้หรือสนามหญ้า ทำให้ไม่มีตัวช่วยบังแดดและลดความร้อนโดยธรรมชาติ การที่บริเวณรอบบ้านเป็นพื้นคอนกรีตเต็มพื้นที่ยิ่งเพิ่มการสะสมความร้อน และส่งผลให้บ้านร้อนอบอ้าวมากขึ้น
- วัสดุและโครงสร้างบ้านไม่เหมาะสม : บ้านที่ใช้วัสดุที่ดูดซับความร้อนได้ง่าย เช่น การทาสีโทนเข้ม หลังคาสีทึบ หรือการไม่มีฉนวนกันความร้อนที่ดีพอ จะทำให้บ้านสะสมความร้อนไว้มาก ส่งผลให้อุณหภูมิภายในบ้านสูงขึ้น การติดตั้งฝ้าเพดานเตี้ยเกินไปก็ทำให้ความร้อนไม่ลอยตัวขึ้นด้านบน แต่ลอยอยู่ในระดับต่ำ เลยทำให้บ้านร้อนอบอ้าวมากขึ้น
- การจัดวางเฟอร์นิเจอร์และการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า : การวางเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ที่ขวางทางลมผ่าน และการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ปล่อยความร้อน เช่น หลอดไส้ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าจำนวนมาก ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้บ้านร้อนได้ หากไม่มีระบบระบายอากาศที่ดี
9 วิธีคลายร้อนในบ้านแบบไม่ง้อแอร์อย่างเห็นผล
เมื่อเข้าใจสาเหตุของปัญหาบ้านร้อนแล้ว มาดูวิธีแก้ไขกันแบบตรงจุดและได้ผลจริง ด้วย 9 วิธีคลายร้อนในบ้านที่คุณสามารถทำได้เอง โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งเครื่องปรับอากาศ
1. ติดตั้งฉนวนกันความร้อนใต้หลังคา
การติดตั้งฉนวนกันความร้อนใต้หลังคาเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากในการป้องกันความร้อนจากด้านบนเข้าสู่ตัวบ้าน ฉนวนจะช่วยดักจับความร้อนไม่ให้ผ่านลงมา ทำให้อุณหภูมิภายในบ้านลดลงได้มากถึง 5-8 องศาเซลเซียส คุณสามารถเลือกใช้ฉนวนกันความร้อนได้หลายชนิด เช่น ฉนวนใยแก้ว ฉนวนอะลูมิเนียมฟอยล์ หรือแผ่นโฟมกันความร้อนพิเศษ ซึ่งนับเป็นการลงทุนระยะยาวที่คุ้มค่าสำหรับการแก้ปัญหาบ้านร้อนอบอ้าว
2. ติดตั้งระแนงบังแดด
การติดตั้งระแนงบังแดด เป็นอีกวิธีแก้ปัญหาบ้านร้อนไม่รู้จะแก้ยังไงให้กับหลายคน อีกทั้งยังทำให้บ้านไม่ได้มืดทึบจนเกินไปด้วย และยังมีช่องว่างที่ช่วยระบายอากาศได้ดี จึงเป็นที่นิยมในการติดตั้งกันอย่างมาก และสำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกติดตั้งไม้ระแนงที่ไหนดี ระแนงอลูมิเนียมลายไม้จาก LiteWOOD เป็นอีกหนึ่งทางเลือกคุณภาพ ในราคาที่ตอบโจทย์ อีกทั้งยังมีความแข็งแรง ทนทาน ทนต่อสภาพอากาศได้ดี และดูแลรักษาง่าย
3. ปลูกต้นไม้บังแดดรอบบ้าน
การปลูกต้นไม้บริเวณรอบบ้านเป็นวิธีธรรมชาติที่ช่วยลดความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต้นไม้จะช่วยให้ร่มเงาและบังแสงแดดไม่ให้ส่องตรงเข้าบ้าน นอกจากนี้ ต้นไม้ยังช่วยดูดซับความร้อน คายความชื้น และสร้างอากาศบริสุทธิ์รอบบ้าน ควรเลือกปลูกต้นไม้ที่มีทรงพุ่มให้ร่มเงาได้ดีทางทิศตะวันตกและทิศใต้ของบ้าน เพื่อบังแดดในช่วงบ่ายที่ร้อนที่สุด
4. เลือกทาสีกันความร้อนที่ผนังด้านนอก
การทาสีกันความร้อนที่ผนังด้านนอกของบ้านเป็นอีกวิธีที่ช่วยสะท้อนความร้อนได้อย่างดี สีที่มีคุณสมบัติกันความร้อนจะช่วยสะท้อนรังสีความร้อนและป้องกันไม่ให้ผนังดูดซับความร้อนจากภายนอก ควรเลือกสีโทนอ่อนที่สะท้อนแสงได้ดีกว่าสีโทนเข้ม สีกันความร้อนคุณภาพดีสามารถสะท้อนความร้อนได้มากถึง 95% ช่วยให้อุณหภูมิภายในบ้านลดลงได้ถึง 2-3 องศาเซลเซียส
5. ติดตั้งม่านกันความร้อน
การติดตั้งม่านกันความร้อนเป็นวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยลดความร้อนจากแสงแดดที่ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาในบ้าน ควรเลือกใช้ม่านที่มีความหนาพอเหมาะและมีคุณสมบัติกันความร้อนโดยเฉพาะ หรือจะเลือกใช้ม่านปรับแสงแบบมู่ลี่ที่สามารถปรับระดับการบังแสงได้ตามต้องการ นอกจากม่านแล้ว ยังอาจพิจารณาติดฟิล์มกันความร้อนที่กระจกหน้าต่างเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความร้อนได้มากขึ้น
6. เลือกติดตั้งหน้าต่างที่ระบายอากาศได้ดี
อีกหนึ่งวิธีแก้ปัญหาบ้านร้อนอบอ้าว แต่ไม่รู้จะแก้ยังไง ก็คือการเลือกใช้ประตูหน้าต่างที่ถูกออกแบบมาเพื่อระบายอากาศโดยเฉพาะอย่าง TOSTEM WE PLUS กับการออกแบบที่ช่วยให้อากาศไหลเวียนได้ดีขึ้น ลดปัญบ้านร้อนอบอ้าวได้ดีในดีไซน์ที่เรียบง่าย ทันสมัย และเปิด-ปิดใช้งานได้ง่าย อีกทั้งยังช่วยป้องกันฝุ่น เสียงรบกวน และแมลงได้เป็นอย่างดีเมื่อปิดใช้งาน จึงตอบโจทย์บ้านที่อยากประหยัดค่าไฟในช่วงกลางวันโดยไม่ต้องเปิดแอร์ได้ดี
7. จัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะสม
การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ในบ้านก็มีผลต่อการระบายความร้อนเช่นกัน ควรจัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้ไม่ขวางทางลมและแสงธรรมชาติ ไม่วางเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ปิดกั้นหน้าต่างหรือช่องระบายอากาศ เพื่อให้อากาศไหลเวียนได้สะดวก นอกจากนี้ การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากวัสดุเย็น เช่น ไม้ หวาย หรือเฟอร์นิเจอร์ที่มีพื้นผิวไม่สะสมความร้อน ก็ช่วยบรรเทาความร้อนในบ้านได้ด้วย
8. เลือกใช้หลอดไฟ LED ภายในบ้าน
หลอดไฟแบบเดิม โดยเฉพาะหลอดไส้และหลอดฮาโลเจน ปล่อยความร้อนสูงมากขณะใช้งาน การเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED จะช่วยลดความร้อนภายในบ้านได้ เนื่องจากหลอด LED ใช้พลังงานน้อยกว่าและปล่อยความร้อนน้อยกว่าหลอดไฟแบบเดิมถึง 80% นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดค่าไฟได้อีกด้วย ควรพิจารณาเปลี่ยนหลอดไฟในห้องที่มีแสงสว่างตลอดเวลา เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องครัว เพื่อลดการสะสมความร้อนในบ้าน
9. ติดตั้งพัดลมระบายอากาศ
การติดตั้งพัดลมระบายอากาศเป็นอีกวิธีที่ช่วยไล่ความร้อนออกจากบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรติดตั้งพัดลมระบายอากาศในห้องที่มักสะสมความร้อนสูง เช่น ห้องครัว ห้องน้ำ หรือห้องที่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าจำนวนมาก พัดลมเพดานก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีในการช่วยหมุนเวียนอากาศและทำให้รู้สึกเย็นลง สำหรับวิธีคลายร้อนในบ้านแบบนี้ ควรใช้ร่วมกับการเปิดหน้าต่างเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้ดียิ่งขึ้น
และทั้งหมดนี้ก็เป็นวิธีคลายร้อนในบ้านดี ๆ ที่ทุกคนสามารถนำไปใช้กันได้ตามงบประมาณที่มี ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งพัดลมระบายอากาศ ทาสีกันความร้อน หรือแม้แต่ติดตั้งระแนงบังแดด ก็ล้วนเป็นวิธีที่ช่วยให้บ้านเย็นลงได้อย่างมาก หากคุณสนใจติดตั้งระแนงอลูมิเนียมลายไม้เพื่อบังแดด Thanakoon มีบริการแบบครบวงจร ตั้งแต่การให้คำปรึกษา ประเมินราคา และติดตั้งให้แบบครบจบ พร้อมรับประกันผลงานคุณภาพ
อีกทั้งยังมีสินค้าสำหรับทำบ้านอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ระแนงอลูิมิเนียมลายไม้ ประตูกระจกบานเลื่อน ประตูหน้าต่างอลูมิเนียม ประตูหน้าบ้าน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร 094-3058484 Line : @thanakoon_web หรือ Facebook : @THANAKOONINTER
