หลังคาบ้านมีกี่แบบ? เจาะลึกทุกสไตล์ พร้อมวิธีเลือกให้เหมาะกับบ้าน

หลังคาบ้านมีกี่แบบ

หัวข้อที่น่าสนใจ

หากคุณกำลังวางแผนสร้างบ้านแล้วสงสัยว่าหลังคาบ้านมีกี่แบบ มีวิธีเลือกวัสดุอย่างไร วันนี้ Thanakoon ในจะพาคุณไปเจาะลึกทุกเรื่องหลังคาบ้าน ตั้งแต่รูปทรงยอดฮิตไปจนถึงวัสดุที่ใช่ เพื่อให้คุณตัดสินใจเลือกหลังคาบ้านแบบไหนดีได้อย่างมั่นใจ และเหมาะสมกับบ้านของคุณที่สุดกัน

ทำไม “หลังคาบ้าน” ถึงเป็นส่วนที่สำคัญที่ต้องใส่ใจในการทำบ้าน

หลังคาบ้านไม่ใช่เป็นเพียงส่วนที่อยู่สูงสุดของตัวบ้าน แต่เปรียบเสมือนปราการด่านแรกที่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่รุนแรง ทั้งแสงแดดที่ร้อนจัดและพายุฝนที่โหมกระหน่ำตลอดทั้งปี การมีหลังคาที่แข็งแรงทนทานจึงมีความสำคัญอย่างมากในการปกป้องตัวบ้านและผู้อยู่อาศัยให้ปลอดภัย ดังนั้น โครงสร้างที่แข็งแรงจึงเปรียบได้กับกระดูกสันหลังของหลังคาบ้าน

ที่ Thanakoon เราให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและมาตรฐานสูงสุด ด้วยโครงหลังคาสำเร็จรูป M-TRUSS ที่ผลิตจากเหล็กกล้ากำลังดึงสูง (High Tensile G550) ซึ่งแข็งแรงกว่าเหล็กทั่วไป ทุกชิ้นส่วนได้รับการออกแบบและคำนวณอย่างแม่นยำด้วยโปรแกรมวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ทำให้มั่นใจได้ว่าโครงหลังคาของคุณจะแข็งแรง ทนทาน ติดตั้งรวดเร็ว และควบคุมงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ รองรับหลังคาบ้านได้ทุกรูปแบบที่คุณต้องการ

รู้จัก 6 ทรงหลังคาบ้านยอดนิยมในไทย แต่ละแบบมีจุดเด่นอย่างไร

เมื่อโครงสร้างแข็งแกร่งแล้ว คำถามต่อไปคือ หลังคาบ้านมีกี่แบบที่นิยมในไทย เพราะการเลือกรูปทรงหลังคาบ้านที่เหมาะสมไม่ได้ส่งผลต่อความสวยงามภายนอกเพียงอย่างเดียว แต่ยังเกี่ยวข้องโดยตรงกับการระบายอากาศ การป้องกันฝน และการบำรุงรักษาในระยะยาว วันนี้เราได้รวบรวม 6 ทรงยอดฮิตมาให้คุณได้ทำความรู้จักกัน

1. หลังคาทรงจั่ว (Gable Roof)

หลังคาทรงจั่ว (Gable Roof)

เป็นทรงมาตรฐานที่พบเห็นได้บ่อยที่สุด มีลักษณะเป็นสามเหลี่ยมลาดเอียงสองด้านมาบรรจบกันที่สันกลาง จุดเด่นคือสามารถระบายความร้อนใต้หลังคาได้ดีเยี่ยม ช่วยลดการสะสมความร้อนในตัวบ้าน และยังระบายน้ำฝนได้รวดเร็ว ลดโอกาสการรั่วซึม เหมาะกับสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง แต่ควรออกแบบชายคาให้ยื่นยาวพอที่จะป้องกันฝนสาดเข้าทางหน้าจั่ว

2. หลังคาทรงปั้นหยา (Hip Roof)

หลังคาทรงปั้นหยา (Hip Roof)

เป็นอีกหนึ่งทรงที่ได้รับความนิยมสูง มีลักษณะลาดเอียงทั้งสี่ด้าน ทำให้สามารถกันแดดและกันฝนได้จากทุกทิศทาง โครงสร้างมีความแข็งแรงทนทานต่อแรงลมได้ดีเยี่ยม จึงเหมาะกับบ้านในพื้นที่โล่งหรือมีลมแรง หลังคาบ้านทรงนี้ให้ความรู้สึกที่ดูภูมิฐานและมั่นคง แต่จะมีพื้นที่ใต้หลังคาน้อยกว่าทรงจั่ว ทำให้การระบายความร้อนอาจไม่ดีเท่า จึงควรติดตั้งฝ้าชายคาที่มีรูระบายอากาศช่วย

3. หลังคาทรงเพิงหมาแหงน (Lean-to Roof)

หลังคาทรงเพิงหมาแหงน (Lean-to Roof)

หลังคาทรงโมเดิร์นที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มีลักษณะเป็นหลังคาแผ่นเดียวที่ลาดเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง โครงสร้างไม่ซับซ้อน ทำให้ก่อสร้างง่าย รวดเร็ว และประหยัดค่าใช้จ่าย รูปทรงที่เรียบง่ายแต่โดดเด่นทำให้บ้านดูทันสมัย อย่างไรก็ตาม หลังคาบ้านทรงนี้อาจป้องกันความร้อนได้ไม่ดีเท่าทรงอื่น และต้องคำนวณองศาความลาดเอียงให้เหมาะสมเพื่อการระบายน้ำฝนที่ดี

4. หลังคาทรงมะนิลา (Manila Roof)

หลังคาทรงมะนิลา (Manila Roof)

เป็นการผสมผสานข้อดีของหลังคาทรงจั่วและทรงปั้นหยาเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว โดยส่วนบนจะเป็นหน้าจั่วที่ช่วยระบายความร้อนได้ดี และส่วนล่างจะเป็นทรงปั้นหยาที่คลุมตัวบ้านทั้งสี่ด้าน ช่วยกันแดดกันฝนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ตอบโจทย์หลังคาบ้านในสภาพอากาศแบบไทย ๆ ได้ดี แต่มีความซับซ้อนของโครงสร้างซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงในการรั่วซึมหากช่างไม่ชำนาญ

5. หลังคาทรงแบน (Flat Roof)

หลังคาทรงแบน (Flat Roof)

หลังคาบ้านทรงแบนราบเป็นระนาบเดียว ให้ลุคที่ดูโมเดิร์นและมินิมอลอย่างแท้จริง จุดเด่นที่สุดคือสามารถใช้พื้นที่บนหลังคาให้เกิดประโยชน์ได้ เช่น การจัดเป็นสวนดาดฟ้า หรือพื้นที่พักผ่อน อย่างไรก็ตาม หลังคาทรงนี้ต้องเผชิญกับแดดและฝนโดยตรง จึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับระบบกันซึมและการระบายน้ำเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันปัญหารั่วซึมในระยะยาว

6. หลังคาทรงปีกผีเสื้อ (Butterfly Roof)

หลังคาทรงปีกผีเสื้อ (Butterfly Roof)

เป็นการนำหลังคาทรงเพิงหมาแหงนสองฝั่งมาชนกัน โดยแหงนออกด้านนอก ทำให้มีลักษณะคล้ายปีกผีเสื้อที่กำลังกางปีก เป็นดีไซน์ที่ดูโดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูงมาก สามารถออกแบบรางระบายน้ำตรงกลางเพื่อรองรับน้ำฝนได้ดี แต่ก็เป็นจุดที่ต้องใส่ใจเรื่องการรั่วซึมเป็นพิเศษเช่นกัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างความแตกต่างและบ้านที่ไม่เหมือนใคร

เลือกวัสดุมุงหลังคาบ้านแบบไหนดี ให้สวยทน เหมาะกับอากาศเมืองไทย

เลือกวัสดุมุงหลังคาบ้านแบบไหนดี

เมื่อตัดสินใจเลือกรูปทรงได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกวัสดุมุงหลังคา ซึ่งมีผลอย่างมากต่อความทนทาน ความสวยงาม และการป้องกันความร้อน วัสดุแต่ละชนิดมีคุณสมบัติและราคาแตกต่างกันไป การเลือกให้เหมาะสมจะช่วยให้หลังคาบ้านของคุณสวยงามทนทานไปอีกนาน

หลังคาเมทัลชีท (Metal Sheet)

ทำจากแผ่นเหล็กรีดลอนเคลือบสารป้องกันสนิม มีจุดเด่นคือน้ำหนักเบา ติดตั้งได้รวดเร็วเพราะมีขนาดยาวเป็นแผ่นเดียว ทำให้มีรอยต่อน้อย ช่วยลดปัญหารั่วซึมได้ดี สามารถดัดโค้งได้ตามรูปทรงหลังคา แต่มีข้อควรระวังคือเรื่องเสียงที่ดังเวลาฝนตกและอาจนำความร้อนได้ง่าย จึงควรติดตั้งคู่กับฉนวนกันความร้อนและกันเสียงเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

หลังคาไฟเบอร์ซีเมนต์ (Fiber Cement)

เป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ผลิตจากปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ผสมกับเส้นใยสังเคราะห์ ทำให้มีน้ำหนักเบากว่ากระเบื้องคอนกรีต แต่ยังคงความแข็งแรงทนทาน มีสีสันและรูปลอนให้เลือกหลากหลาย ช่วยสะท้อนความร้อนได้ดีในระดับหนึ่ง และมีราคาที่สมเหตุสมผล ทำให้เป็นตัวเลือกที่ลงตัวสำหรับหลังคาบ้านส่วนใหญ่

หลังคากระเบื้องคอนกรีต (Concrete Tiles)

ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแกร่งและทนทานสูงสุด ผลิตจากปูนซีเมนต์ ทราย และน้ำ มีความหนาและน้ำหนักมาก ทำให้ทนทานต่อลมแรงได้ดีและช่วยลดเสียงดังจากภายนอกได้ แต่ด้วยน้ำหนักที่มากจึงต้องการโครงสร้างหลังคาที่แข็งแรงเป็นพิเศษเพื่อรองรับ หลังคาบ้านชนิดนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความทนทานในระยะยาวและไม่กังวลเรื่องงบประมาณโครงสร้าง

หลังคากระเบื้องเซรามิก (Ceramic Tiles)

เป็นกระเบื้องที่มีความสวยงามและหรูหราที่สุด ผ่านการเผาที่อุณหภูมิสูง ทำให้มีสีสันสดใส คงทน ไม่ซีดจาง ผิวเคลือบมันวาวช่วยสะท้อนความร้อนได้ดีและป้องกันการเกิดคราบสกปรกได้ง่าย อย่างไรก็ตาม กระเบื้องเซรามิกมีราคาสูงและมีความเปราะบางกว่ากระเบื้องชนิดอื่น ต้องใช้ความระมัดระวังในการติดตั้งเป็นพิเศษ

สรุปแล้ว การจะตอบคำถามว่าหลังคาบ้านมีกี่แบบ และควรเลือกหลังคาบ้านแบบไหนดีนั้น ขึ้นอยู่กับสไตล์ของบ้าน งบประมาณ และสภาพแวดล้อมโดยรอบเป็นสำคัญ ควรพิจารณาทั้งรูปทรงที่ชอบควบคู่ไปกับวัสดุมุงหลังคาที่ตอบโจทย์ เพื่อให้ได้หลังคาบ้านที่สวยงาม แข็งแรง และปกป้องบ้านของคุณได้อย่างยาวนานนอกจากการเลือกหลังคาบ้านที่แข็งแรงแล้ว การปกป้องบ้านจากแสงแดดและความร้อนยังทำได้อีกหลายวิธี เช่น การติดตั้งระแนงอลูมิเนียม เพื่อช่วยกรองแสงและเพิ่มความเป็นส่วนตัว รวมถึงการเลือกใช้วัสดุที่ทนทานอย่างอลูมิเนียมลายไม้สำหรับงานตกแต่งส่วนอื่น ๆ เช่น ประตูรั้วบ้าน หรือรั้วอลูมิเนียมลายไม้เพื่อความสวยงามและทนทานได้ครบจบ สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร 094-3058484 Line : @thanakoon_web หรือ Facebook : @THANAKOONINTER