การก่อสร้างและตกแต่งอาคารสมัยใหม่ต้องการวัสดุที่ทั้งสวยงาม และตอบโจทย์การใช้งาน อลูมิเนียมคอมโพสิตจึงกลายเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมสูง ด้วยคุณสมบัติที่ผสานทั้งความแข็งแรงของอลูมิเนียม และความยืดหยุ่นของพลาสติกชนิดพิเศษ ทำให้ได้วัสดุที่ตอบโจทย์งานสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ แต่จะมีข้อดีอย่างไรบ้าง Thanakoon จะมาอธิบายเรื่องนี้เอง
อลูมิเนียมคอมโพสิต คืออะไร
อลูมิเนียมคอมโพสิต คือ วัสดุที่พัฒนาขึ้นจากการผสมผสานคุณสมบัติเด่นของอลูมิเนียม และพลาสติกชนิดพิเศษ มีลักษณะเป็นแผ่นประกอบ 3 ชั้น โดยมีแผ่นอลูมิเนียมคุณภาพสูงประกบทั้งสองด้าน และมีแกนกลางเป็นพลาสติกประเภทโพลีเอทิลีน จึงทำให้ได้วัสดุที่มีความแข็งแรงแต่น้ำหนักเบา
ทำไมต้องตกแต่งด้วยอลูมิเนียมคอมโพสิต
อลูมิเนียมคอมโพสิตมีคุณสมบัติพิเศษที่ตอบโจทย์งานตกแต่งสมัยใหม่หลายอย่าง เช่น
- ดีไซน์สวยงาม เหมาะกับสถาปัตยกรรมยุคใหม่ที่ต้องการตกแต่งผนังคารแบบ 3D
- น้ำหนักเบาแต่แข็งแรงทนทาน ช่วยลดภาระการรับน้ำหนักของโครงสร้าง
- ดัดโค้งและขึ้นรูปได้ง่าย เหมาะกับงานดีไซน์ที่ต้องการความโค้งมน
- ทนทานต่อสภาพอากาศและรังสี UV ไม่ซีดจางหรือเสื่อมสภาพง่าย
- บำรุงรักษาง่าย ทำความสะอาดสะดวก
อลูมิเนียมคอมโพสิต ทำมาจากอะไร
แผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิตประกอบด้วยชั้นวัสดุ 3 ชั้น ได้แก่
- แผ่นอลูมิเนียมด้านนอก หนา 0.21-0.50 มม.
- แกนกลางพลาสติกโพลิเอทิลีน Polyethylene (PE) หรือวัสดุกันไฟ Fire Retardant (FR)
- แผ่นอลูมิเนียมด้านใน หนาเท่ากับด้านนอ
คุณสมบัติเด่นจากการเคลือบสี (Coating)
การเคลือบสีแผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิตมีหลายระบบให้เลือกตามการใช้งาน โดยแต่ละระบบมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ดังนี้
1. ระบบเคลือบสีโพลีเอสเตอร์ (Polyester Coating)
ระบบเคลือบสีที่ได้รับความนิยมเนื่องจากราคาประหยัดและใช้งานง่าย โดดเด่นด้วย
- ต้นทุนการผลิตต่ำ กระบวนการเคลือบทำได้ง่ายและแห้งเร็ว
- มีสีสันให้เลือกหลากหลาย ทั้งแบบเงา กึ่งเงา และด้าน
- เหมาะสำหรับงานภายในอาคารที่ไม่โดนแดดโดยตรง
- มีข้อจำกัดเรื่องความทนทานต่อรังสี UV อาจซีดจางเมื่อใช้งานภายนอก
2. ระบบเคลือบสี PVDF (Polyvinylidene Fluoride)
เทคโนโลยีการเคลือบสีระดับพรีเมียม ที่ให้ประสิทธิภาพสูง
- ใช้ส่วนผสมพิเศษจากสารฟลูออรีน คาร์บอน และเรซิน
- ผ่านการอบด้วยอุณหภูมิสูงเพื่อสร้างชั้นฟิล์มป้องกันพิเศษ
- ทนทานต่อสภาพอากาศและรังสี UV ได้ดีเยี่ยม
- มีสีสันสวยงาม โดยเฉพาะโทนเมทัลลิกและสีมุก
- มีรูปแบบพัฒนาพิเศษ Nano-PVDF ที่
- ทนทานต่อคราบสกปรกและมลพิษได้ดียิ่งขึ้น
- รักษาความเงางามได้ยาวนานกว่า
- มีราคาสูงกว่าและต้องการความชำนาญในการติดตั้ง
3. ระบบเคลือบสี FEVE (Fluoroethylene Vinyl Ether)
นวัตกรรมการเคลือบสีระดับสูงที่ใช้โพลียูรีเทนพิเศษ
- ผ่านกระบวนการเคลือบและอบหลายชั้น
- ให้ความแข็งแรงทนทานต่อสภาพแวดล้อมสูงสุด
- สีสันสดใส มันวาวสูง คงทนยาวนาน
- เหมาะกับงานที่ต้องการความสวยงามระดับพรีเมียม
- มีต้นทุนการผลิตสูงที่สุดในบรรดาระบบเคลือบทั้งหมด
รู้จักกับไส้กลางในอลูมิเนียมคอมโพสิต
ไส้กลางของแผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิต เป็นส่วนสำคัญที่กำหนดคุณสมบัติการใช้งาน ซึ่งมักจะทำจากวัสดุพลาสติกพิเศษที่ให้ทั้งความแข็งแรง และความยืดหยุ่น
เข้าใจถึงความต่างของไส้กลางในอลูมิเนียมคอมโพสิต
โดยหลักแล้ว ไส้กลางในอลูมิเนียมคอมโพสิต จะมีอยู่ 2 ประเภท ซึ่งจะมีคุณสมบัติแตกต่างกัน ดังนี้
ไส้กลางแบบ PE (Polyethylene)
- มีความยืดหยุ่นสูง ดัดโค้งง่าย
- น้ำหนักเบา ราคาประหยัด
- เหมาะกับงานทั่วไป
ไส้กลางแบบ FR (Fire Resistant)
- มีคุณสมบัติต้านไฟ
- แข็งแรงกว่าแบบ PE
- เหมาะกับอาคารที่ต้องการความปลอดภัยสูง
อลูมิเนียมคอมโพสิต มีกี่ประเภท แตกต่างกันอย่างไร
อลูมิเนียมคอมโพสิตแบ่งตามการใช้งานและคุณสมบัติพิเศษได้ 5 ประเภทหลัก ดังนี้
1. อลูมิเนียมคอมโพสิตมาตรฐาน (Standard Grade)
- เป็นรุ่นพื้นฐานที่นิยมใช้ในงานทั่วไป ความหนาอลูมิเนียม 0.21-0.30 มม.
- เคลือบสีระบบ Polyester เหมาะสำหรับงานภายในอาคาร
- มีให้เลือกทั้งแบบผิวเงาและด้าน หลากหลายสี
- ราคาประหยัด เหมาะสำหรับโครงการที่มีงบประมาณจำกัด
2. อลูมิเนียมคอมโพสิตกันไฟ (Fire Resistant Grade)
- มีแกนกลางเป็นวัสดุกันไฟพิเศษ ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย
- เหมาะสำหรับอาคารสูงที่ต้องการความปลอดภัยสูง
- มีคุณสมบัติต้านทานการลุกลามของไฟได้ดี
- ความหนาอลูมิเนียม 0.30-0.50 มม. แข็งแรงเป็นพิเศษ
3. อลูมิเนียมคอมโพสิตกันสารเคมี (Chemical Resistant Grade)
- ออกแบบพิเศษสำหรับพื้นที่ที่ต้องสัมผัสสารเคมี
- เคลือบผิวด้วยระบบ PVDF หรือ FEVE ทนทานสูง
- เหมาะสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมและห้องปฏิบัติการ
- มีความต้านทานต่อการกัดกร่อนและสารเคมีสูง
4. อลูมิเนียมคอมโพสิตสเปเชียลเกรด (Special Grade)
- ผลิตด้วยเทคโนโลยีพิเศษ ให้ลวดลายและพื้นผิวเฉพาะ
- มีทั้งแบบลายไม้ ลายหินอ่อน และลายพิเศษอื่นๆ
- เคลือบผิวหลายชั้นเพื่อความสวยงามและทนทาน
- เหมาะสำหรับงานตกแต่งที่ต้องการความโดดเด่น
5. อลูมิเนียมคอมโพสิตเกรดพรีเมียม (Premium Grade)
- ใช้อลูมิเนียมคุณภาพสูง ความหนา 0.40-0.50 มม.
- เคลือบสีระบบ PVDF หรือ FEVE ให้ความคงทนสูงสุด
- รับประกันการใช้งานยาวนาน 15-20 ปี
- เหมาะกับโครงการระดับไฮเอนด์ที่ต้องการคุณภาพสูงสุด
อลูมิเนียมคอมโพสิต ถูกใช้ในงานประเภทใดบ้าง
อลูมิเนียมคอมโพสิตเป็นวัสดุอเนกประสงค์ที่สามารถนำไปใช้ได้หลากหลายรูปแบบ ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นทั้งด้านความแข็งแรง และความสวยงาม ตัวอย่างเช่น
1. งานตกแต่งภายนอกอาคาร (Exterior Cladding)
- ใช้เป็นผนังม่านกันความร้อน (Curtain Wall) สำหรับอาคารสูง
- ตกแต่งหน้าอาคารพาณิชย์ ห้างสรรพสินค้า และโชว์รูม
- ทำซุ้มประตู หลังคาโค้ง และโครงสร้างตกแต่งภายนอก
- งานหุ้มเสาภายนอก ทั้งเสากลมและเสาเหลี่ยม
2. งานสถาปัตยกรรมเฉพาะทาง
- ออกแบบและตกแต่งสถานีบริการน้ำมัน หัวจ่ายน้ำมัน
- ตกแต่งป้ายหน้าโครงการ ซุ้มทางเข้าหมู่บ้าน
- สร้างโครงสร้างพิเศษที่ต้องการความโค้งมน
- งานตกแต่งอาคารสนามบิน สถานีรถไฟฟ้า
3. งานตกแต่งภายใน (Interior Design)
- ผนังตกแต่งในอาคารสำนักงาน ล็อบบี้โรงแรม
- ฝ้าเพดานตกแต่งพิเศษ เพดานเว้าโค้ง
- ผนังกั้นห้อง พาร์ติชัน และฉากกั้น
- งานตกแต่งเคาน์เตอร์ และเฟอร์นิเจอร์บิลท์อิน
4. งานป้ายและการแสดงสินค้า
- ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ Billboard
- บูธแสดงสินค้า นิทรรศการ
- ป้ายหน้าร้าน ป้ายแบรนด์
- งานตกแต่งดิสเพลย์สินค้าในห้างสรรพสินค้า
อลูมิเนียมคอมโพสิต มีกี่ขนาด
แผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิตมีขนาดมาตรฐานคือ 1,220 x 2,440 มม. และ 1,500 x 4,000 มม. ความหนารวมทั่วไปอยู่ที่ 3-4 มม. โดยความหนาของแผ่นอลูมิเนียมด้านนอกมีให้เลือกตั้งแต่ 0.21-0.50 มม. ตามความเหมาะสมของการใช้งาน
อลูมิเนียมคอมโพสิต ราคาเท่าไหร่
ราคาอลูมิเนียมคอมโพสิตขึ้นอยู่กับคุณสมบัติและการเคลือบสี โดยทั่วไปเริ่มต้นที่ 1,500-3,000 บาทต่อแผ่น สำหรับแบบมาตรฐาน ส่วนรุ่นพิเศษหรือกันไฟราคาจะสูงขึ้นตามคุณสมบัติ
ควรเลือกใช้อลูมิเนียมคอมโพสิตอย่างไรให้ตอบโจทย์
การเลือกใช้อลูมิเนียมคอมโพสิตให้เหมาะสมต้องพิจารณาหลายปัจจัย ทั้งลักษณะการใช้งาน สภาพแวดล้อม และงบประมาณ Thanakoon พร้อมให้คำปรึกษา และบริการที่ครบวงจร ตั้งแต่การเลือกวัสดุ ออกแบบ จนถึงติดตั้ง ด้วยทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์ เพื่อให้คุณได้งานที่มีคุณภาพ สวยงาม และคุ้มค่าการลงทุน